Page 14 - Miccell Book
P. 14
และบริษัทก็เป็นบริษัทหนึ่งที่ลูกค้าต้องการให้ใช้ระเบียบ ROHS ด้วย บริษัท
เห็นความสำาคัญของระเบียบดังกล่าว จึงได้นำาระเบียบ ROHS มาศึกษาทำาความเข้าใจ
และต่อมาวันที่ 1 มกราคม 2550 บริษัทฯ ได้นำาระเบียบ ROHS มาใช้ปฏิบัติควบคู่ไป
กับระบบบริหารคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 : 2000 ในขณะนั้น เพื่อเป็นการสร้าง
ความพึงพอใจให้กับลูกค้า จนได้รับความเชื่อถือ และความยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่าง
ดี ซึ่งบริษัทจะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ โดยปัจจุบัน บริษัทได้ปรับเปลี่ยนระบบคุณภาพ
มาตรฐานจาก ISO 9001 : 2000 เป็น ISO 9001 : 2008 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2552
NANOTEC และ MICCELL
การร่วมมือเพื่อการวิจัยและพัฒนาระหว่างศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
สำานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC: member of
NSTDA) กับบริษัท มิคเซล จำากัด (MICCELL CO., LTD) ได้ร่วมกันในโครงการ
“ศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับการปรับปรุงสมบัติการหน่วงไฟของโพลีเอทิลีนความหนาแน่น
ต่ำา และโพลีเอทิลีนความหนาแน่นต่ำาคอมพาวด์” (Preliminary Study on Improve-
ment of Flame Retardant Properties of Low Density Polyethylene (LDPE)
and its Compounds) โดย MICCELL ให้การสนับสนุนในเรื่องเงินทุนในการวิจัย
และพัฒนาร่วมกับ NSTDA Investment Center ฝ่ายละ 50% ในส่วนของ NANO-
TEC ให้การสนับสนุนในส่วนของบุคลากรที่มีทักษะ (Skill) สูงในเรื่องของ Technolo-
gy โดยหน่วยงาน Technology Management Center (TMC: member of NSTDA)
ซึ่งโครงการนี้มีนัยยะแห่งสัญญา 2 ประการ คือ
1. ระยะเวลาแห่งการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการทดสอบและทดลองในเชิง
พาณิชย์ 2 ปี (8 มิถุนายน 2552 ถึง 7 มิถุนายน 2554) มูลค่าแห่งสัญญา 535,000.00
บาท (ห้าแสนสามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. เมื่อผลการวิจัยพัฒนาของโรงการแล้วเสร็จ MICCELL ได้นำาไปผลิต และ
จำาหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว MICCELL จะจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนงานวิจัยและ
พัฒนาแก่ NANOTEC จำานวน 2,140,000.00 บาท (สองล้านหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว โดยชำาระให้แล้วเสร็จภายใน 10 ปี โดยแบ่งชำาระเป็น 8
งวด
การร่วมมือในการวิจัยแบบพัฒนาระหว่าง NANOTEC กับ MICCELL นี้
นอกจากจะมีผลตอบแทนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ MICCELL ให้ก้าวหน้าอย่าง
ก้าวกระโดดแล้ว ยังมีผลในการพัฒนา Technology วัสดุของประเทศอย่างก้าว
กระโดดเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วมมือระหว่างภาครัฐ และเอกชนครั้งสำาคัญแห่ง
3